การก้าวเข้ามาเริ่มในการเขียนโปรแกรมมือใหม่ โดยเลือก “Python” มาเป็นภาษาแรกของตัวเอง และ จะมีความคิดที่อยากเรียนรู้ภาษา Python ให้สำเร็จให้เร็วที่สุด แต่ว่าเวลาจริงๆ แล้วมันจะต้องใช้เท่าไหร่นานแค่ไหน ในการเรียนรู้ภาษา Python
คนที่พึ่งเริ่มต้นที่ไม่ได้มีพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม และ ไม่รู้จัก “Python” เป็นภาษาที่ต้องในตลาดโปรแกรมเมอร์ ในฐานะ back-end โดยใช้ภาษา Python ในการทำงานแล้วอาชีพอะไรใช้บ้าง
1. Data analysis
2. Machine learning
3. Artificial intelligence
4. Web applications
ทั้งหมดแล้วการที่เริ่มจะศึกษาเรียนรู้ภาษา Python เป็นภาษาที่ยืดหยุ่นมากโครงสร้างทางภาษาก็เข้าใจง่าย “ถ้ายังคิดว่าภาษา Python ยากไหมกับคนที่เป็นมือใหม่ หรือ ครั้งแรกในการเขียนโปรแกรม” แต่โดยทั่วไปภาษา Python จะถูกมองเป็นภาษาที่ง่ายที่เหมาะสมกับคนที่พึ่งเริ่มเรียนก็ไม่ได้แปลว่าง่ายที่สุดส่วนที่ยากก็ยังมีอยู่ให้เห็น มันก็ยังขึ้นอยู่กับความเข้าใจอย่างเดียวไม่พอต้องรู้ถึงวิธีการทำงานของการเขียนโค้ด ถึงจะทำให้เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น
วิธีการคิดก่อนที่จะลงมือเขียนโปรแกรม
1. ต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่าจะเขียนโปรแกรมอะไร
2. แบ่งเป้าหมายที่จะทำเป็นขั้นตอนการทำงานที่ละขั้นตามลำดับ
3. เมื่อเจอกับปัญหาก็เรียงลำดับการแก้ไขเป็นขั้นเป็นตอนจะช่วยให้แก้ได้ง่ายขึ้น
4. สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ทุกภาษาเหมือนกัน
ดังนั้นการที่ฝึกฝนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะว่าจะเป็นสิ่งที่ต้องทำถ้าคุณอยากจะเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python ให้เป็น และจะให้อยู่กับตัวเองไปนานๆต้องพยายามให้มาก
“แล้วต้องใช้เวลาเท่าไหน” ถึงจะทำให้ถึงเป้าหมายที่สมหวัง ในการเรียนรู้ภาษา Python อย่างที่เคยบอกว่าจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง จริงๆแล้วต้องใช้เวลาต่อวันละ 1-2 ชั่วโมง และต้องเป็นทุกๆวัน การทำในแบบนี้จะทำให้เห็นผลได้ชัดเจนมาก
เพื่อให้ง่ายต่อการเขียนภาษา Python เลยมีการแบ่งขั้นไว้ 3 ลำดับ
1. Beginner-level Python
ในลำดับพื้นฐานควรจะทำความเข้าใจให้ถึงการทำงานของภาษา Python ให้ทำได้จริงจะใช้เวลาอยู่ที่ 4 – 8 สัปดาห์สำหรับมือใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานเลยจำเป็นที่จะต้องอยู่ตรงนี้ให้นานๆกว่าคนที่เคยมีพื้นฐานจากภาษาอื่นแล้ว สิ่งที่ต้องรู้ในพื้นฐานก็จะมี
- Variables
- If-else
- Loops
- Data types
- Functions
- Classes etc.
2. Advanced-level Python
เมื่อผ่านในลำดับพื้นฐานมาแล้วในขั้นถัดไปของภาษา Python นั้นจะเจาะจงขึ้นแล้วไม่ได้จำเป็นว่าต้องเรียนรู้ทั้งหมดก็ได้ แต่ถ้าได้ก็ดี ให้ดูที่ว่าจะเอาไปทำอะไรมากกว่าในขั้นนี้ก็จะมี
- Database management (MySQL and MongoDB)
- Multi-threading
- Socket programming
- Synchronization techniques and tools etc
3. Professional-level Python
เป็นลำดับขั้นสูงของภาษา Python หลังจากที่ผ่านมาแล้ว 2 ขั้น ถัดไปจะเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการตลาดแรงงานของโปรแกรมเมอร์ที่ภาษา Python ทำได้ก็จะมี
- Advanced data analytics
- Image processing
- Machine learning
- Artificial intelligence etc.
ขั้นที่ต้องใช้เวลาอยู่ในได้มากที่สุดจะมีอยู่ 2 ขั้น คือ 1, 2 เพราะว่าพื้นฐานกับการเจาะจงว่าจะลงไปให้ลึกในสายไหน มันทำให้พัฒนาต่อมาขั้นที่ 3 ได้ง่ายมากขึ้น
โดย พัสดี แก้วอินทร์
Source: