Python กับการเงิน ตอนที่ 1

Python นับได้ว่าเป็นภาษาที่ครอบคลุมทำได้ทุกอย่างมาก และเป็น Python ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็น ในด้านของการวิเคราะห์ข้อมูล การเงินที่จะพูดถึงก็ด้วยเหมือนกัน แต่พอเอามาใช้ในด้านของการเงินจำเป็นต้องมีความปลอดภัยมากๆ Python ก็ได้รับความมั่นใจในความปลอดภัยนั้นด้วย ในตอนแรกก่อนที่ Python ได้รับความนิยม โดยจะมีการใช้ Java มาก่อน พอ Python เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ภาษา Java เลยโดนแบ่งผู้พัฒนาออกไปบ้างส่วนไปลองใช้ Python แล้วเกินความชอบ หรือ ท้าทายเพราะเป็นภาษาที่เริ่มนิยมเข้ามาในด้านของการทำอะไรที่เกี่ยวกับการเงิน

และด้วยที่ Python มีโครงสร้างการเขียนที่ง่าย มีความยืดหยุ่น และมี Library มากมายเนื่องด้วย ภาษา Python มีคนใช้ที่เยอะ เป็นสังคมที่แบ่งปันกัน Python สามารถทำงานได้กว้างมากจนไปถึงมีความปลอดภัยทางด้านการเงิน เช่น การวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ การทำ Applications ในการงานก็ยังได้ Python สามารถจัดการกับความปลอดภัยได้ดีในระดับที่ป้องกันเกี่ยวกับเรื่องการเงินได้ถือได้ว่าเป็นภาษาที่ดีควรที่จะศึกษาอย่างมาก

เทคโนโลยีในการด้านการเงินที่ท้าทาย ?

ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านการเงินนั้นจำเป็นต้องหาเทคโนโลยีมาช่วยในเรื่องของเพิ่มกำไร หรือ ประหยัดต้นทุนในการสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาวางขาย จึงต้องปรับปรุงให้มีความยืดหยุ่นต่อการทำธุรกิจเทคโนโลยีเลยเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน การใช้เทคโนโลยีเลยต้องอยู่ในที่กฎหมายกำหนดไว้จึงจะใช้ได้อย่างปลอดภัยต่อผู้ใช้ด้วย แต่ว่าผู้ใช้ก็จะมีอยู่ 2 แบบ

1. ผู้ใช้ที่ไม่อยากใช้เทคโนโลยีกับเรื่องของการเงิน

โดยจะรู้สึกมั่นใจกับการที่ใช้เทคโนโลยีให้ได้น้อยที่สุด เพราะบ้างคนมีความกลัวว่าเทคโนโลยี ไม่ปลอดภัยเหมือนกับการใช้ระบบที่ใช้คนในการทำงานมากกว่า จริงๆแล้วไม่ผิดที่ยังมีความกลัวอยู่เนื่องด้วยมันเป็นสิ่งที่อาจจะมองไม่เห็นกับตาของตัวเอง

2. ผู้ใช้ที่ชอบการใช้เทคโนโลยีกับเรื่องของการเงิน

ผู้ใช้ประเภทนี้จะรู้สึกว่าเทคโนโลยี จะมาช่วยทำให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยที่ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันมีความรวดเร็วในการทำงานมากในด้านของการเงินก็ทำให้ดีมากขึ้นอยู่ไหนก็ทำธุรกรรมการเงินได้ แต่ว่าถึงจะชอบใช้ก็มีความระวังด้วยเหมือนกันถึงจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มันก็ยังมีผู้ไม่หวังดีอยู่เหมือนกัน

ความท้าทายในด้านของการเงินอีกอย่างก็คือ Big Data ข้อมูลมหาศาลของการเงินมีทั้งว่ายากความสำคัญในการจัดการ ด้วยที่ภาษา Python ไม่มีความซับซ้อนมากเลยทำให้ ขึ้นโมเดลในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ไวเป็นภาษาที่จัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆ 

แต่ในเรื่องของความเร็วในการทำงานจะยังสู้ภาษาพวก C, C++ และ Java ก็ตาม Python ก็เป็นภาษาที่นิยม และพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ มีโปรแกรมเมอร์มาใช้เพิ่มขึ้นเยอะขึ้น มีข้อมูลจาก eFinancialCareers มี HackerRank ในปี 2018 Python อยู่ในลำดับที่ 3

https://research.hackerrank.com/developer-skills/2018#skills

บริษัทที่เริ่มใช้ Python ในด้านของการเงิน?

ถึงภาษา Python จะเกินขึ้นมาเมื่อปี 1990 แต่ยังไม่แพร่หลายเป็นที่รู้จักในวงการด้านการเงินมากนัก จนได้มีบริษัท JPMorgan ได้เริ่มนำภาษา Python ไปข้องเกี่ยวกับการเงิน โดยนำมาจัดสรรเงิน 10.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ต่อปีด้วย ภาษา Python และมี Project Athena ของ JPMorgan ด้วยการผสมผสานกันระหว่างภาษา Python และ Java คือ โปรแกรมในการเทรดค่าเงิน ที่มีความปลอดภัยมากได้รับความมั่นใจกับธนาคารที่มาเข้าร่วม และ ทาง BAML หรือ Bank of America Merrill Lynch ได้มีแพลตฟอร์มของตัวเองที่มีชื่อว่า Quartz ใช้ภาษา Python เขียนขึ้นมามีหนึ่งในผู้พัฒนาออกมาพูดสาเหตุว่าทำไมถึงต้องเพราะภาษา Python นั้นเพราะ Python มีความสามารถในได้ทำอะไรได้หลายอย่างมีขอบเขตที่กว้างมากเลยตรงกับความสนใจ

โดย พัสดี แก้วอินทร์

Source:

https://www.faridrifaie.my.id/2019/02/use-python-in-finance.html

Write a comment